วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ชีวิตฉันอยู่ได้เมื่อมีเธอ

~ * ~ *~ * ~ *
ความรักคือ โชคอย่างหนึ่งเพราะใช่ว่าทุกคนจะมีได้
ความรัก เป็นได้ทั้งมือเเละผ้าพันเเผลเวลาเสียใจ
ความ รักคือ สิ่งเติมเต็มให้ชิวิตไม่รู้สึกขาดอะไรไปอย่างนึง
ความรักคือ ความหวัง กำลังใจ เเละศรัทธาในกันเเละกัน
ความรัก มีความลับอยู่อย่างหนึ่งว่าไม่ได้รักในสิ่งที่ทำให้เรา
มีความสุขเเต่มีความสุขใน สิ่งที่เรารักต่างหาก
ความรักคือ ศิลปะ ที่คนมีรักเท่านั้นที่จะเข้าใจเเละเห็นคุณค่า
ความ รักคือ โอกาส ที่เราจะได้พิสูจน์จิตวิญญาณของตัวเอง
ความรักคือ สิ่งที่ทำให้คนฉลาดกลายเป็นคนโง่ ทำให้คนโง่กลายเป็นคนฉลาด
ความรัก เมื่อสูญเสียไปเเล้วก็ยังดีกว่าไม่เคยรัก
ความ รัก มิได้เป็นการก้าวนำหรือก้าวตามเเต่เป็นการก้าวไปพร้อมๆกัน
ความรักทำให้คนเราเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์เดิมๆของชีวิต
ความรักทำให้จดจำคืนพิเศษคืนเดียวไปตลอดชีวิตเพราะทุกคืน
ที่ไร้ความรักก็มิอาจเทียบเท่าได้กับคืนนี้เพียงคืนเดียว
ความรักคือการยอมเป็นน้ำเย็นในขณะที่อีกฝ่ายร้อนเป็นไฟ
ความรักที่มีมาเป็นปีๆก็สามารถพังทลายลงได้เพียงเสี้ยววินาที
ความรักจะยาวนานหรือจะเเสนสั้นทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับวิธีที่รัก
ความรักกว่าจะพบเจอได้ นั้นเเสนยากอย่าให้มันจบสิ้นเพียววันเดียว
ความ รักสามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ตลอดเวลาเหมือนถ่านไฟเก่าที่กำลังคุโชน
ความรักต่อให้บอกกันทุกวันว่ารักก็ไม่มีคำว่ามากเกินไปหรอก
เเต่ความเกลียดสิบอกกันครั้งเดียวก็คงไม่ อยากได้ยินอีกต่อไป
ความรักถ้าไม่รักเเล้วต่อให้พูดมากเท่าใด ก็ไม่สามารถรักกันได้
ความรักสามารถให้อภัยกัน ได้เสมอโดยไม่มีเงื่อยไขว่ากี่ครั้ง
ความรักรัก ได้เเต่อย่าหลงเพราะถ้าหลงเวลาเลิกเเล้วจะเจ็บปวด
ความรักอยู่เหนือคำทำนายเเละจะไม่มีวันเป็นไปตามคำพยากรณ์ได้
ความรักคือสิ่งแปลกใหม่ที่จะทำให้มุมมองของคุณเปลี่ยน ไปจากเดิม
ความรักทำให้คุณอยู่นิ่งๆเงียบๆได้ นานกว่าเดิม
ความรักคือสิ่งที่ทำให้เกิดประกาย ไฟในหัวใจ
ความรักคือการเริ่มคิดเป้าหมายเเห่ง ชีวิต
ความรักคือการร่วมฝัน ร่วมปันใจเเละก้าวไปในชีวิต
ความรักคือการอยู่ เคียงข้างกันเสมอไม่ว่าอีกฝ่ายจะตกต่ำเพียงใด
ความ รักไม่ว่าจะเป็นเเบบไหนยังไงมันก็ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ความรักเป็นนามธรรมที่มองไม่เห็นเเต่สัมผัสไได้ด้วยหัวใจ
ความรักทำให้วันเลวร้ายไม่เป็นวันเลวร้ายที่สุด
ความรักทำให้วันที่เเสนเศร้ากลายเป็นวันที่สุขที่สุด ได้
ความรักเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่สามารถจะหา ได้ง่ายตามท้องถนน
ความรักทำให้อะไรดีงามได้
It's easy to say "ILOVE YOU" But only "I DO" says you're really one for always.
คำ ว่ารักใครก็พูดได้ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือรักที่รักจริงๆ จากหัวใจ.....





    • บางครั้ง ความรัก ก็เข้ามาหาเรา เพื่อให้เราเรียนรู้ มิใช่ให้เราครอบครอง
    • ไม่ผิดหากจะรักคนมีเจ้าของ แต่จะผิดหากเข้าไปทำหน้าที่ซ้ำซ้อนคนอีกคน
    • หน้าที่ของความรัก คือการเดินไปมอบความรัก และยืนเฉยๆเพื่อรับมัน ไม่ใช่การดิ้นรนเพื่อให้ได้มา
    • ในห้วงรัก การถูกรัก มันสุขใจ การมอบความรักมันอิ่มเอม และเมื่อได้รับการปฏิเสธ มันทรมาน
    • ความรัก จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดการถ่ายเทพลังอันอ่อนโยนของคนสองคน
    • ความรัก มิใช่การเข้าไปเป็นชีวิตเขา แต่คือการเข้าไปอยู่ข้างๆชีวิตเขา
    • คนบางคนเหมาะที่เกิดมาเพื่อให้เรารัก แต่ไม่เหมาะที่จะร่วมชีวิตด้วย
    • ความรัก ระยะแรกทำให้ร่างกายหลั่งสารกระตือรือร้น ทำให้มนุษย์ทำทุกอย่างให้ได้มาซึ่งความรัก
    • แฟน ก็คือ เพื่อนคู่คิด ที่ก้าวไปด้วยกันในวันข้างหน้า
    • ในวันที่ความรักคงที่ สารกระชุ่มกระชวยงดทำงาน สิ่งเดียวที่จะทำให้อยู่ด้วยกันได้ตลอดไป คือ ความเข้าใจล้วนๆ
    • ความห่างไกล มันทรมาน เวลาเจอกันจึงหอมหวาน และเป็นความทรงจำที่เก็บไปนั่งเพ้อฝันได้ในวันจาก
    • บุคคลไม่พึงประสงค์สำหรับทุกคู่รัก มักจะเดินทางมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
    • ผู้ชายแสดงความรักด้วยการกระทำ ขณะที่ผู้หญิงอยากรู้ว่ารัก จากคำพูด 
      • ความรักเป็นเพียงสายใยบาง ๆ ที่มันถูกหล่อหลอมขึ้นจากความรู้สึกต่าง ๆ ทั้งความอาทร ห่วงใย ห่วงหา คิดถึง
      • ความอดทน จะทำให้อุปสรรคต่าง ๆ ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ความพยายาม จะทำให้เราสองคนยังคงอยู่ ความไว้ใจ จะทำให้ความรักของเราแข็งแกร่ง ความซื่อสัตย์ จะทำให้ความรักของเรามั่นคง ความเสมอต้นเสมอปลาย จะทำให้ความรักของเราสวยงาม และสุดท้ายความรักก็จะก่อตัวขึ้นเป็นความผูกพัน
      • สิ่งเหล่านี้จะทำให้สายใยบาง ๆ ของความรัก กลายเป็นเชือกเส้นหนาที่ผูกคนสองคนไว้ด้วยกัน มันจะเป็นเชือกที่มัดเราไว้ด้วยกัน เป็นเชือกที่ทำให้เราไม่อึดอัด เราจะไม่ดิ้นรนที่จะพยายามหลุดออกจากเชือกเส้นนี้
      • เมื่อได้เจอความรักที่ดีแล้ว จงทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว อย่าปล่อยให้เขาโดดเดี่ยว อย่าปล่อยให้เขาเดียวดาย คิดถึงสิ่งดี ๆ ที่เราเคยมีกัน อย่าลืมวันแรก ๆ ที่เรารู้สึกกับคน ๆ นี้ เขาเป็นคนดีที่สุดแล้วสำหรับเรา พยายามรักษาเขาไว้ เพราะเมื่อเขาหลุดลอยไปแล้ว เราจะไม่สามารถเรียกความรู้สึกต่าง ๆ กลับมาได้อีก เหมือนเวลาที่ไม่สามารถย้อนเดินกลับ
      • ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะอดีตแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว อย่าทิ้งหัวใจของคุณไว้กับอดีต อย่าคิดว่าอดีตจะมีวันหวนคืน
      • อย่าคิดว่าไม่มีพรุ่งนี้ อย่าลืมบทเรียนของเมื่อวาน ทุกชีวิตยังมีความหวังอยู่เสมอ จงปล่อยให้ชีวิตดำเนินต่อไป..
      • วันหนึ่งถ้าชีวิตหวนคืนมาสู่ทางสายเก่า.. ที่เคยทำให้คุณมีความสุขระหว่างเดินทางในแต่ละก้าว..จงอย่าเดินเลี่ยงมันไป อีก เพราะน้อยนักที่ถนนสายเดิมยังคงสภาพเดิมเพื่อรอให้คุณเดินย้อนกลับมา.. ลองเดินต่อไปสิ..บางทีคุณอาจจะเจอจุดหมายที่คุณค้นหามาตลอดชีวิต ในเส้นทางที่คุณเคยเดินเลี่ยงมันไปก็ได้...

    วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

    ลูกกวาด


    ลูกอมก้อนน้ำตาลแสนหวานสีสันสดใสบ้างก็เปรี้ยวบ้างก็หวานเป็นสิ่งแทนความเป็นเด็กได้ดีที่สุดและอยู่คู่กับชาวสยามมาหลายสิบปีโดยที่ความนิยมไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย


    ปัจจุบันลูกอมได้เปลี่ยนไปจากสมัยก่อนเป็นอย่างมากทั้งเรื่องรูปร่างรสชาติและสีสันแต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนก็คือความอร่อย
    แล้วคุณหล่ะชอบลูกอมไหม
    ผมคนหนึ่งที่หลงใหลรสชาติของวัตถุแสนหวานมาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันเพราะเวลาที่ลูกอมอยู่ในปากไม่เพียงแต่จะได้ความหวานจากมันมันเหมือนทำให้ผมได้หวนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
    สำหรับคอลัมน์วันนี้จะขอพูดถึงลูกอมที่หลายๆคนคงจะจำได้เป็นอย่างดีเผื่อบางทีอาจจะทำให้คุณนึกถึงอดีตกับความสุขความสนุกที่ได้จากลูกอม
    กิมบ๊วยหรือกิมจ้อ ชื่อตี๊ตี๋แต่เมื่อได้ยินแล้วก็คงจะจำกันได้ดีและคงไม่มีใครที่ไม่เคยลิ้มรสบ๊วยเค็มอัดเม็ด เพราะเมื่ออดีตกาลกิมจ้อจัดได้ว่าเป็นลูกอมอันดับหัวแถวที่ถูกอกถูกใจอย่างมากในหมู่เด็กและผู้ใหญ่ สิ่งหนึ่งที่ทุกคนชื่นชอบ กิมจ้อ ก็ตรงที่รสชาติที่เค็มๆ เปรี้ยวๆ และหวานๆอยู่ภายในเม็ดแถมปริมาณต่อหนึ่งกระป๋องมีเกือบ100เม็ดราคาก็ถูกคิดดูคุ้มขนาดไหนผมยังจำรสชาติของมันได้ดีถึงแม้ว่าปัจจุบันแทบจะไม่ได้ลิ้มรสเนื่องจากหากินยากไม่เหมือนสมัยก่อนที่มีขายแทบทุกร้านแต่หากคุณยังติดใจกับรสชาติกิมบ๊วยหรือกิมจ้อก็หาซื้อทานกันได้แถวย่านสำเพ็ง

    จี้ดจ้าด

    ซี้ด!...........โครตเปรี้ยวเลยว่ะ หลายคนคงจะเคยอุทานกับประโยคนี้กันบ้าง เพราะอย่างน้อยก็มีผู้เขียนคนหนึ่งแหละที่อุทานขึ้นหลังจากได้ลิ้มรสลูกอมที่มีชื่อว่า ซุปเปอร์เลม่อนหรือที่นิยมเรียกว่า จี้ดจ้าด ลูกอมอันนี้หลายคนได้ให้สมญานามว่าเป็นลูกอมที่เปรี้ยวที่ ซู้ด!ในดินแดนสยามด้วยเอกลักษณ์ที่มีความเปรี้ยวสุดๆทำให้ลูกอมจี้ดจ้าดเป็นที่นิยมในกลุ่มเด็กที่ชอบความแปลกเพราะในสมัยก่อนลูกอมจี้ดจ้าดถือได้ว่าเป็นลูกอมที่แปลกมากปัจจุบันกลายเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นเพราะประโยชน์ของลูกอมจี้ดจ้าดสามารถช่วยในการอ่านหนังสือสอบได้เป็นอย่างดี
    ลูกอมปีศาจ นวัตกรรมสุดยอดของวงการลูกอมที่เรียกเสียงฮือฮาได้ในช่วง ปี 90ยุคนั้นคงไม่มีใครไม่รู้จักกับลูกอมที่ถูกขนานนามว่าเป็นลูกอมที่แปลกที่สุดและเจ๋งที่สุดจุดเด่นของลูกอมปีศาจก็คงจะรู้กันเป็นอย่างดีเพราะมันทำให้ช่องปากของคุณเปลี่ยนสีด้วยลูกเล่นที่แตกต่างจากลูกอมชนิดอื่นทำให้เป็นที่ชื่นชอบของเด็กเป็นอย่างมาก
    แต่แล้วลูกอมปีศาจก็ต้องหมดไปจากประเทศไทยเนื่องจากได้พบผู้ป่วยที่เกิดจากอมลูกอมปีศาจ ซึ่งต่อมาได้ตรวจสอบพบว่าจากการนำตัวอย่างมาตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สงขลา จำนวน 5 ตัวอย่าง พบสี ซันเซ็ทเยลโล FCF, สีปองโช 4 อาร์, สีเอโชรพีน ,สีบสิลเลียนท์บูลและสีตาร์ตราซีนเกินกว่ามาตรฐานทั้งนี้ยังพบสารตะกั่วด้วยอันตรายจากสารเหล่านี้คือจะไปเคลือบเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ขัดขวางการดูดซึมอาหารเกิดอาการท้องเสียน้ำหนักตัวลดร่างกายอ่อนเพลียมีผลต่อสมองและนำไปสู่การเกิดมะเร็งรวมทั้งมีสารหนูเจือปนอยู่ในลูกอมจึงต้องสั่งเลิกจำหน่าย
    ลูกอมเผ็ด และนี่ก็เป็นลูกอมอีกชนิดหนึ่งที่ผู้อ่านคุ้นเคยกันดี ด้วยรสชาติที่ไม่เหมือนกับลูกอมชนิดอื่นจึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะรสชาติที่เผ็ดสุดๆนี้เองทำให้ลูกอมเผ็ดกลายเป็นอาวุธลับสำคัญที่ใช้ในการแกล้งเพื่อนและที่พิเศษอีกอย่างของลูกอมเผ็ดก็คือสามารถเลือกปริมาณความเผ็ดได้ได้ตั้งแต่เกรด C สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเผ็ดน้อยถึงเกรด A สำหรับคนที่ชื่นชอบความเผ็ดมากๆ ผมเองก็เคยมีความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนกับความเผ็ดของมัน เพราะความตระกระของตัวเองได้หยิบลูกอมเผ็ดเข้าปากทีเดียวถึงสามเม็ด (ไม่นึกว่าจะเป็นลูกอมเผ็ดแถมเกรดA อีกด้วย)จึงทำให้ขยาดกับลูกอมเผ็ดไปนานแต่ปัจจุบันกลายเป็นลูกอมที่ถูกขึ้นทะเบียนหาอมยากไปแล้วเพราะว่าไม่มีใครทราบว่าจะได้ลิ้มรสความเผ็ดได้จากที่ไหน
    เสน่ห์ของลูกอมนอกจากจะทำให้คุณหลงใหลไปกับรสชาติของมันแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ได้จากลูกอมซึ่งมันมีค่ามากกว่าความอร่อยนั่นก็คือความรักและมิตรภาพเพราะเพียงลูกอมหนึ่งเม็ดอาจทำให้คุณได้พบกับเพื่อนใหม่ๆได้เห็นรอยยิ้มของใครบางคนและอยู่เป็นเพื่อนคุณได้ทุกเวลาโดยไม่เกี่ยงว่าคุณอยู่หนใดทุกวันนี้ลูกอมก็ยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบยังคงเป็นที่ชื่นชอบคนทุกๆคนไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ลูกอมจะยังอยู่กับคู่กับเราตลอดไป

    ปีนหน้าผา

    การปีนหน้าผา
    กิจกรรมการปีนหน้าผา เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพราะถือว่าเป็นการท่องเที่ยว ที่เข้าไปสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ไม่ก่อมลภาวะหรือความเสียหายแก่ สถานที่ใด ๆ ทั้งสิ้น
    นอกจากความเพลิดเพลินแล้ว การปีนหน้าผายังเป็นกีฬาอย่างหนึ่งด้วย เพราะร่างกายได้เคลื่อนไหวและออกแรงใน การพยายามที่จะไปให้ถึงจุดสูงสุดที่ตั้งใจเอาไว้ แต่การปีนหน้าผาใช่แต่จะใช้กำลังและความคล่องตัวเพียงเท่านั้น ยังรวม ถึงการมีสมาธิและความมั่นคงในการที่จะผ่านชะง่อนหินและด่านต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นโดยธรรมชาติ นอกจากนั้นการตัดสิน ใจที่รอบคอบ ประสบการณ์และความชำนาญก็มีส่วนสำคัญ เพราะการผิดพลาดบางครั้งอาจจะเกิดอาการบาดเจ็บและเป็น อันตราย
    การปีนหน้าผานั้นอาจจะดูคล้ายการปีนเขาก็จริง แต่มีอันตรายน้อยกว่ามาก โดยบริษัทนำเที่ยวจะมีการทำเครื่องหมาย หรือเครื่องยึด ทำให้สะดวกและง่ายต่อการปีน มีผู้ควบคุมเชือก หรือบีเลเยอร์ (Belayer) ช่วยดึงและแนะนำการปีนอยู่ที่ พื้นด้านล่าง และจะมีการฝึกสอนให้รู้จักเทคนิค อุปกรณ์ และทดลองปีนกับหน้าผาจำลองก่อนในระยะแรก ๆ กลุ่มนักปีนหน้าผาส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะ ที่กระบี่ได้รับการกล่าวขานถึงความสวยงามของสถานที่และความซับซ้อนของหน้าผา ในขณะที่คนไทยยังมองว่าการปีน หน้าผาเป็นกิจกรรมที่อันตราย แต่ในปัจจุบันหลังจากที่กระแสการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ชาวไทย ก็มีการแสวงหาการท่องเที่ยวแบบใหม่ ๆ ที่เน้นการผจญภัย และความตื่นเต้น เช่น การล่องแก่ง ดำน้ำ ขี่จักรยาน เสือภูเขา และกิจกรรมการปีนหน้าผา ทำให้ปริมาณผู้สนใจ และบริษัทนำเที่ยวที่จัดกิจกรรมในลักษณะนี้เพิ่มมากขึ้น

    อุปกรณ์พื้นฐานสำหรับการปีนหน้าผาเบื้องต้น
    อุปกรณ์พื้นฐานสำหรับการปีนผาเบื้องต้นแบบ Top Roping มีดังนี้
    ฮาร์เนส (Harness) หรือสายรัดสะโพก ลักษณะเป็นห่วงส่วนเอวและส่วนขา ซึ่งถูกโยงไว้ด้วยกันโดยสายในล่อนทั้ง ด้านหน้าและด้านหลัง สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 2 ตัน

    คาราไบเนอร์ (Carabiner) เป็นห่วงเหล็กหรืออะลูมิเนียม อัลลอย (อย่างหลังนิยมกว่าเพราะน้ำหนักน้อยกว่า) สามารถ รับแรงดึงได้ 2 ตัน หลายรูปร่างและขนาด ขึ้นอยู่กับการใช้งาน มี 2 ประเภทหลักคือ แบบมีตัวล็อก (Screwgate Carabiner) และแบบไม่มีตัวล็อก (Snap Carabiner) สำหรับตัวที่ใช้เกี่ยวกับห่วงฮาร์เนสทุกตัวต้องมีตัวล็อกเสมอ


    ควิกดรอว์ (Quickdraw) คือสายไนลอนสั้น ๆ ซึ่งมีคาราไบเนอร์เกี่ยวอยู่ตรงปลายทั้ง 2 ข้าง ใช้สำหรับเกี่ยวกับหมุด ตามหน้าผา ป้องกันการตกจากที่สูงทีเดียวถึงพื้น


    อุปกรณ์บีเลย์ (Belay Device) ใช้สำหรับผ่อนเชือกให้นักปีนผาและควบคุมความเร็วในการโรยตัว มีชื่อเรียกแตก ต่างกันไปตามรุ่นที่ผลิต เช่น Grigri, Figure of Eight, ATC


    รองเท้าปีนผา จะมีพื้นเรียบ ไม่มีดอกยาง หัวรองเท้าแคบเพื่อให้สอดเท้าเข้าไปบนช่องหินได้สะดวก เมื่อสวมแล้วต้อง รู้สึกว่าคับแน่นจึงจะเหมาะกับการปีนหน้าผา

    แมกนีเซียม คาร์บอเนต หรือ ผงชอล็ก เป็นผงคล้ายแป้ง ใส่ถุงผ้า ห้อยไว้ด้านหลังของนักปีนผา ใช้สำหรับลดความชื้น ที่มือเพื่อความถนัดในการเกาะเกี่ยว


    เชือกสำหรับปีนผา (Kernmantle) เป็นเชือกลักษณะพิเศษ คือ มีความเหนียว ไม่ยืดง่าย สามารถรับแรงดึงได้ถึง 2 ตัน เชือกเส้นหนึ่งประกอบด้วยเชือกเส้นเล็ก 2 เส้นควั่นกันอยู่ชั้นในสุดและพันด้วยไนลอน ความยาวมาตรฐานของเชือกคือ 45 เมตร 50 เมตร และ 60 เมตร

    การฝึกปีนผาเบื้องต้น



    ตัวอย่างหนึ่งของการฝึกปีนหน้าผา ของชมรมปีนหน้าผากรุงเทพฯ ซึ่งเปิดเป็นโรงเรียนสอนปีนหน้าผา ทำการฝึกโดย เริ่มจากการเรียนรู้ถึงอุปกรณ์ การใช้ ระบบการทำงานและเทคนิคในการปีน
    ในการฝึกขั้นต้นหลังจากการแนะนำอุปกรณ์แล้ว จะเป็นการฝึกการปีนแบบ Bouldering ซึ่งเป็นการปีนโดยใช้เพียง รองเท้าและผงแมกนีเซียม คาร์บอเนตกันลื่นเท่านั้น ในการฝึกปีนหน้าผานั้น มีหลักอยู่ว่าการปีนหน้าผาที่ดี คือต้องเคลื่อน ไหวโดยให้ร่างกายอยู่ในลักษณะสมดุลกัน ลักษณะการปีนของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ผู้ปีนจะต้องสังเกตว่าการเคลื่อน ไหวแบบไหนที่ตนเองถนัดและสามารถเคลื่อนต่อไปได้โดยไม่ต้องเสียแรงมากเกินไป การปีนต้องอาศัยความมั่นคงของมือ และเท้าในการเกาะและเหยียบ
    หลังจากการฝึก Bouldering ก็เป็นการฝึกผูกเงื่อนเชือกปีนผา (Kernmanle) ซึ่งมีความเหนียวแข็งแรง สามารถ รับแรงดึงได้ถึง 2 ตัน บิดให้เป็นห่วง หมุนเกลียว 2 ครั้ง ใช้ปลายเชือกด้านหนึ่งสอดเข้าไปในห่วง แล้วย้อนกลับมาพันขึ้น พันลงตามแนวเดิมของเชือก ซึ่งเป็นการผูกแบบเงื่อนเลขแปด การผูกเชือกนี้สำคัญมากสำหรับนักปีนผา เพราะจะใช้ผูกกับ ห่วงฮาร์เนสเพื่อดึงตัวนักปีนผาไว้กรณีที่ตกลงมา
    การปีนผาเบื้องต้นมักจะเริ่มจากการปีนแบบ Top Roping คือมีผู้ปีนนำ (Leader) นำเชือกขึ้นไปสอดผ่าน แองเคอร์ (Anchor) ซึ่งอยู่ตรงจุดปลายทางของการปีน ดึงเชือกลงมายังพื้นให้ปลายด้านหนึ่งยาวพอที่ผู้ปีนสามารถ ผูกเงื่อนเลขแปดไว้กับฮาร์เนสของตัวเอง ส่วนปลายเชือกอีกด้านหนึ่งนั้น บีเลเยอร์จะร้อยผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า บีเลย์ (Belay Device) แล้วคล้องอุปกรณ์บีเลย์ไว้กับห่วงฮาร์เนสของตัวเอง
    อุปกรณ์บีเลยมีอยู่หลายแบบ ทั้งบีเลย์ เพลต (Belay Plate) รูปร่างแบน มีรู 2 รู คล้ายกระดุมอะลูมิเนียมเม็ดใหญ่ ฟิกเกอร์ ออฟ เอท (Figure of Eight) เป็นอะลูมิเนียมรูปร่างลักษณะคล้ายเลขแปดอาระบิก ห่วงบนและห่วงล่างมีขนาด ไม่เท่ากัน อุปกรณ์อีกตัวคือ ATC ลักษณะคล้ายตะกร้าใบเล็ก เป็นชนิดหนึ่งของบีเลย์ บางครั้งอาจจะใช้กรีกรี (Grigri) ซึ่งมีคันโยกสำหรับผ่อนเชือกและมีตัวล็อกอัตโนมัติช่วยผ่อนแรงได้ด้วย
    สำหรับการฝึกเบื้องต้นของชมรมปีนเขา จะใช้เวลาในการฝึกที่ชมรมเป็นเวลาประมาณ 2 อาทิตย์ จึงจะมีการเดินทางไป ยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ



    ข้อมูลเพิ่มเติม

    นักท่องเที่ยวและผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูล และรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากชมรม และบริษัทนำเที่ยวที่จัดกิจกรรม ปีนหน้าผา และการโรยตัวจากหน้าผาได้ หรือสามารถหาอ่านข้อมูลได้จาก “คู่มือแนะนำเส้นทางปีหน้าผาในเมืองไทย” โดยสมพร สืบเหตุ

    ทะเล

    คุณเคยไปทะเลรึเปล่าและคุณคิดว่าคุณหลงใหลกันมันรึเปล่า
    สิ่งที่คุณเห็นกับสิ่งที่เราเห็นเหมือนกันรึเปล่า



























    ทะเลอันดามัน (อังกฤษ: Andaman Sea) เป็นทะลที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอ่าวเบงกอล ส่วนหนึ่งของมหาสมุทรอินเดีย ทางเหนือของทะเลติดกับปากแม่น้ำอิระวดีในประเทศพม่า ทางตะวันออกเป็นคาบสมุทรพม่า ประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย ทางตะวันตกเป็นหมู่เกาะอันดามัน และหมู่เกาะนิโคบาร์ ภายใต้การปกครองของอินเดีย ทางใต้ติดกับเกาะสุมาตรา (ส่วนหนึ่งของอินโดนีเซีย) และช่องแคบมะละกา ทะเลอันดามันมีความยาวจากเหนือจรดใต้ประมาณ 1,200 กิโลเมตร กว้าง 650 กิโลเมตร กินพื้นที่ประมาณ 797,700 ตร.กม. มีความลึกเฉลี่ย 870 เมตร จุดที่ลึกที่สุดมีระดับความลึก 3,777 เมตร




    รูปภาพ my family

    เพื่อนของฉัน

              
    เพื่อน คือ...ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ยิ่งกว่าแฟนก้อว่าได้ ไม่ตามใจมัน ก็ไม่ด่า
    แต่ ถ้ามันไม่ตามใจ เราก็ด่าได้ โดยที่มันและเราไม่โกรธกัน

    เพื่อนเมื่อโกรธ กันสามารถกลับมาคืนดีกันได้ โดยไม่ต้องเก็บความสงสัยว่า เรื่องที่โกรธกันคืออะไร ผ่านแล้วก็ผ่านไป
    เพื่อนคือที่พึ่ง ยามเป็นทุกข์
    เพื่อนคือที่ปรึกษา ตั้งแต่เรียน ทำงาน จนจะแต่งงานก็ยังต้องปรึกษามัน
    เพื่อนคอยสับรางเวลารถไฟจะชน
    เพื่อน คอยโกหกพ่อแม่เวลาไปเที่ยวแต่บอกว่าไปทำงาน
    เพื่อนคอยบอกแฟนว่าเรากำลัง อยู่กับมัน ทั้งที่จริงเราไม่ได้อยู่กับมันหรอก
    และเพื่อนก็คือ คนจ่ายค่าข้าวเวลาเราไม่มีเงิน


    "เพื่อน" คือ ทุกอย่าง มีผู้ที่เคยคบกันถามว่าจะให้เลือก หนึ่งเดียว ระหว่างเค้าซึ่งคบกันมา 1 ปี กับเพื่อนซึ่งคบมาประมาณ 15 ปี ว่าคุณจะเลือกใคร ตอบแบบได้แบบไม่ต้องคิดเลยว่า "เพื่อน" ซึ่งเค้าก็บอกว่าตอบผิดตอบใหม่ได้นะ

    เราก็บอก ว่าตอบถูกแล้ว เพราะเค้าเห็นว่าเรารักเพื่อนมากกว่า แต่ไม่ใช่ ถ้าเราจะต้องเอาคนเข้ามา ในชีวิตอีก 1 คน ซึ่งก็ยังไม่รู้อะไรกันมาก กับเสียคนที่เรารู้จกกันมาเป็น 10 ปี เราว่าทุกคน ก็ต้องมีคำตอบเหมือนกับเรา เพราะทั้งสำหรับคนทั้งสองกลุ่ม เราไม่สามารถเอาแต่ละคน มาบวกและลบกันเพื่อให้ผลลัพธ์เป็นศูนย์

    เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องเลือกสิ่งที่มีค่ามากกว่า และสิ่งที่เราเลือก สิ่งนั้นก็คือ ''เพื่อน''
    "some time happy… some time sad… but all time friend "
    บทส่งท้าย ถ้าเราสนุก ไปเที่ยวโดยไม่มีเพื่อน แล้วเล่า ให้มันฟัง มันก็ไม่ว่าอะไร....แล้วถ้าเราเที่ยวแล้วเกิดปัญหา เราตามตัวมันมามันเคยพูด
    ไหม ว่า "กูไม่สนมึงเที่ยวแล้วไม่ชวนกู มึงแก้ไขเองแล้วกัน" คำพูดอย่างนี่ จะไม่มีจากปาก เพื่อน จะมีแต่คำว่า " มึงอยู่ตรงไหน มึงเป็นอะไรว่ะ"
    แล้ว ก็ลงท้ายว่า "เออตกลงกูจะรีบไป..."


     
     
    เพิ่มคำอธิบายภาพ
           

    วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

    5 นิสัยผู้หญิงน่ารัก

    5 นิสัยของผู้หญิงน่ารัก!? 


    1. ช่างมัน ! ฉันไม่แคร์

    ใช่ ว่าจะไม่แคร์ไปเสียทุกเรื่อง แต่ต้องการให้คุณเลิกแคร์กับเรื่องไม่เป็นรื่องต่างหาก สมมติว่าคนขับแท๊กซี่โกงเงินทอนคุณไป 3 บาท จนสามวันผ่านไปคุณก็ยังจำหน้าคนขับแท๊กซี่คนนั้นได้ อย่างนี้ผู้หญิงน่ารักไม่พึงปฎิบัติอย่างยิ่งค่ะ เรื่องเล็กๆน้อยๆที่พอจะมองข้ามได้ก็ปล่อยไปเถอะ อย่ามัววิตกให้อารมณ์มัวหมอง ทำลายความสดใสบนใบหน้าเสียเปล่าๆ เลย

    2. นิ่งเสียตำลึงทอง
    ถ้า คนรอบตัวคุณกำลังโวยวาย หงุดหงิด หรืออะไรก็ตามที่ไม่เกี่ยวกับคุณเลย ก็ไม่มีประโยชน์อันใดที่ผู้หญิงน่ารักๆจะต้องแสดงน้ำใจไมตรีโดยการกระโดด เข้าไปร่วมวงวิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงอารมณ์ร่วมไปกับเขา สู้เป็นฝ่ายอยู่นิ่งๆรับฟังจะดีกว่า เพราะนอกจากไม่ต้องทำร้ายสุขภาพจิตของตัวเองแล้ว การรับฟังอย่างเงียบอาจเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีและเป็นสิ่งที่คนรอบข้างของคุณ ต้องการมากที่สุดก็ได้

    3. นินทากาเลเหมือนเทน้ำ
    ยิ่ง เทก็ยิ่งมัน น้ำยิ่งกระจัดกระจายเลอะไปหมด ดีไม่ดีจะเปรอะมาถึงตัวคนพูดด้วย การนินทาลับหลังเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างยิ่งของผู้หญิงน่ารักนะคะ เพราะขณะที่คุณกำลังนินทา คนร่วมวงรวมทั้งตัวคุณเองก็อาจจะไม่แน่ใจว่าสักวันหนึ่งจะตกเป็นเหยื่อของ การนินทาบ้างหรือเปล่า แต่ผู้หญิงเรารวมกลุ่มกันทีไรเรื่องนี้มักจะห้ามยาก ถ้าคุณคิดจะเลิกก็เริ่มต้นง่ายๆด้วยการเตือนสติตัวเองว่า นี่ฉันกำลังจะนินทาแล้วนะ และชวนเพื่อนเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า ทำอย่างนี้บ่อยๆเข้าคุณก็จะเลิกได้ แล้วกลุ่มของคุณก็จะเลิกตามไปในที่สุดด้วยค่ะ


    4. "หยุดคิด" เสียบ้าง
    ไม่ ใช่หยุดแล้วคิดนะคะ แต่ให้หยุดความคิดบางอย่างเสียบ้าง โดยเฉพาะความคิดแบบเปิดศึก ไม่ว่าจะสงครามกับตัวเองหรือคนรอบข้าง ทันทีที่เริ่มคิดให้ติดเบรกด่วนเลยค่ะ สมมติคุณกำลังคิดว่า "ไม่มีใครทำความสะอาดที่นี่เลยหรือไง" ความคิดนี้ยังไม่อันตราย แต่ถ้าคุณเริ่มคิดต่อไปว่า "ฉันเป็นคนเดียวที่ทำทุกอย่างที่นี่ใช่มั้ย" "ฉันเบื่อเต็มทีแล้ว " จนถึง "ฉันเกลียดที่นี่ ฉันเกลียดทุกคน" นี่แหละค่ะความคิดที่จะทำลายทั้งอารมณ์ จิตใจ และความน่ารักของคุณ

    5. เบื่อคนบ่น
    นับ ว่าเป็นโชคดีถ้าคุณรู้ตัวว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่ชอบการบ่น แต่บางคนก็มักจะพูดว่า "ทำไมคนโน้นคนนี้ขี้บ่น เมื่อไหร่จะหยุดเสียที น่าเบื่อจริงเชียว" รู้ตัวไหมล่ะว่า ถ้าคุณยังไม่เลิกบ่นต่อเรื่องที่คนอื่นบ่น คุณก็จะกลายเป็นคนขี้บ่นที่น่าเบื่อเหมือนกับพวกเขานั่นแหละ



    ไม่ใช่เรื่องเกินกำลังไปใช่ไหมคะ สำหรับการหยุดทบทวนและเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างเล็กๆน้อยๆ สักห้าข้อที่ว่า...เพียงเท่านี้คุณก็จะกลายเป็นผู้หญิงที่น่ารักมีเสน่ห์กว่าเดิมอีกหลายเท่าเชียวค่ะ

    ผู้ชายชอบผู้หญิงแบบไหน??

    ผู้ชาย ชอบให้ผู้หญิง ทำอย่างไร

    Host unlimited photos at slide.com for FREE!

              1. ชอบ ผู้หญิงที่ให้เกียรติตน โดยเฉพาะต่อหน้าผู้อื่น รู้สึกได้หน้าที่ผู้หญิงอยู่ใน control


              2. ชอบ ผู้หญิงพูดจาหวาน ๆ ไพเราะ ยิ้มหวาน เหมือนมีคนกำลังให้บริการไงจ๊ะ


              3. ชอบ ผู้หญิงที่สดชื่นสดใส ร่าเริง มีอารมณ์ขันบ้าง รู้สึกความเครียดที่โดนเจ้านายว่าหด  หาย 

              4. ชอบ ผู้หญิงเอาอกเอาใจเก่งในทุกเรื่อง เขาจะได้รู้สึกเหมือนอาเสี่ยไง


              5. ชอบ ผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจ อบอุ่น อยากอยู่ใกล้ ๆ เป็นสิ่งที่เขาโหยหาตลอดเวลาแต่ไม่กล้าเปิดเผย


              6. ชอบ ผู้หญิงแกล้งโง่ แต่เก่ง มีความรู้ ความสามารถ เขาจะได้รู้สึกมีความภูมิใจเหลืออยู่บ้างไง 

              7. ชอบ ผู้หญิงงอนนิดๆ เขาจะได้ง้อได้ไง แต่อย่าให้ง้อบ่อยจนเขาเบื่อล่ะ 


              8. ชอบ ผู้หญิงที่แต่งตัวดูเรียบร้อย แต่แฝงด้วยความเซ็กซี่ มีเสน่ห์ และโรแมนติก เพื่อนและคนใกล้ชิดได้อิจฉาไง 


              9. ชอบ ผู้หญิงออเซาะเก่ง คิดว่าเขาเป็นรัฐมนตรีต้องออเซาะโครงการถึงจะได้รับการอนุมัติ

             10. ชอบ ผู้หญิงไฟแรงสูง

     
     


    รสไหนที่YOUปลื้ม

    ช็อกโกแลต หรือ ช็อกโกเลต (Chocolate) คือผลิตผลที่ได้มาจากเมล็ดของต้นโกโก้เขตร้อน ช็อกโกแลตเป็นส่วนผสมของของหวานหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นไอศกรีม ลูกอม คุกกี้ เค้ก หรือว่าพาย ช็อกโกแลตถือได้ว่าเป็นของหวานอย่างหนึ่งที่ถูกใจคนทั่วโลก

    ช็อกโกแลตทำจากการหมัก คั่ว และบดอย่างละเอียดของเมล็ดโกโก้ซึ่งได้มาจากต้นโกโก้เขตร้อน (tropical cacao tree) ซึ่งมีต้นกำเนิดจากอเมริกากลางและเม็กซิโก ต้นโกโก้นั้นถูกค้นพบโดยชาวอินเดียนแดงและชาวอัซเตก (Aztecs) แต่ในปัจจุบันได้แพร่กระจายและปลูกไปทั่วเขตร้อน เมล็ดของต้นโกโก้นั้นมีรสฝาดที่เข้มข้นมาก ผลผลิตของเมล็ดโกโก้รู้จักกันในนาม "ช็อกโกแลต" หรือบางส่วนของโลกในนาม "โกโก้"

    ผลิตภัณฑ์จากเมล็ดโกโก้รู้จักภายใต้หลายชื่อแตกต่างกันไปในส่วนต่าง ๆ ของโลก ในอเมริกา อุตสาหกรรมช็อกโกแลตได้จำกัดความไว้ว่า
    โกโก้ (cocoa) คือเมล็ดของต้นโกโก้

    เนยโกโก้ (cocoa butter) คือไขมันของเมล็ดโกโก้

    ช็อกโกแลต (chocolate) คือส่วนผสมระหว่างเมล็ดของต้นโกโก้และเนยโกโก้

    ช็อกโกแลตคือส่วนผสมระหว่างเมล็ดของฝักถั่วโกโก้และเนยโกโก้ ซึ่งได้ผสมน้ำตาลและส่วนผสมอื่น ๆ และถูกทำให้อยู่ในรูปของแท่งและรูปอื่น ๆ

    เมล็ดของต้นโกโก้นอกจากทำเป็นช็อกโกแลตได้แล้วยังสามารถทำเป็นเครื่องดื่มได้ด้วย เช่น ช็อกโกแลตร้อน เครื่องดื่มช็อกโกแลตนั้นได้ถูกคิดค้นขึ้นโดยชาวอัซเตก (Aztecs) หลังจากนั้นโดยชนเผ่าอินเดียนแดงและชาวยุโรป

    บ่อยครั้งที่ช็อกโกแลตมักจะถูกทำให้อยู่ในรูปของสัตว์ต่าง ๆ คน หรือวัตถุในจินตนาการ เพื่อร่วมในงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น รูปกระต่าย รูปทรงไข่ในเทศกาลอีสเตอร์ รูปของเหรียญหรือซานตาคลอสในเทศกาลคริสต์มาส และรูปทรงหัวใจในเทศกาลวาเลนไทน์

    ในอดีตนักเคมีเคยพบว่าช็อกโกแลตมี เฟนิลไธลามิน, ธีโอโบรไมน์ และกาเฟอีน

    ซึ่งสารเหล่านี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ในช็อกโกแลตยังให้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินเอ ดี เค และธาตุเหล็กค่อนข้างสูง หากกินมากเกินไป อาจส่งปัญหาด้านสุขภาพทำให้เป็นโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น

    แต่เมื่อไม่นานมานี้มีการค้นพบสารฟลาโวนอยด์ในช็อกโกแลต

    หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมจะมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจหรือแม้กระทั่งมะเร็งบางชนิด และยังพบว่ายังมีสรรพคุณช่วยให้คลายเครียด เนื่องจากมีสารไปกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเคมีแห่งความสุขที่ชื่อเอ็นโดรฟินออกมา ช่วยทำให้รู้สึกอารมณ์ดี

    ดังนั้น ชาวยุโรปส่วนใหญ่เชื่อว่า

    การกินช็อกโกแลตจะทำให้สุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืนยาว อีกทั้งยังสามารถช่วยลดไข้รักษาอาการอาหารไม่ย่อยและช่วยให้มีลมหายใจที่หอมสดชื่นอีกด้วย


    วานิลลา เป็นกลิ่นที่ได้จากฝักของกล้วยไม้สกุล Vanilla ต้นกำเนิดจากเม็กซิโก ชื่อวานิลลามาจากคำในภาษาสเปน vainilla แปลว่า ฝักเล็กๆ วานิลลามักถูกนำมาใช้แต่งกลิ่นในการทำอาหารประเภทของหวาน และไอศกรีม

    การใช้วานิลลาในการประกอบอาหารทำโดย กรีดฝักวานิลลาออกและขูดนำเอาเม็ดในฝักไปใช้ประกอบอาหาร หรือนำทั้งฝักไปต้มน้ำและช้อนออก วานิลลาแท้มีราคาสูงมากทำให้มีการประดิษฐ์กลิ่นวานิลลาสังเคราะห์ที่ราคาถูกกว่า อย่างไรก็ตามกลิ่นที่ได้จากวานิลลาสังเคราะห์มีความเข้มของกลิ่นไม่เท่ากับของจริงประเทศผู้ผลิตวานิลลาที่ใหญ่ที่สุดคือ มาดากัสการ์



    กลิ่นหอมๆ ของ "วานิลลา" ได้มาจากสารหอมชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่าสาร "วานิลลิน" ซึ่งสกัดมาจากฝักกล้วยไม้ชนิดหนึ่ง ในป่าดงดิบ กล้วยไม้นั้นมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Vanilla fragans มีถิ่นกำเนิด อยู่ทางภาคใต้ของประเทศ เม็กซิโก


    แต่กว่าจะได้เป็นกลิ่นวานิลลาออกมา ก็ต้องผ่านกระบวน การหลายขั้นตอนอยู่เหมือนกัน ต้องรอให้ฝักวานิลลาแก่เต็มที่เสียก่อน แล้วจึงนำ ไปอบ"ให้มีกลิ่นหอม แล้วก็ต้องนำไปผึ่งและบ่มอีกเป็นเวลาหลายเดือนกว่าจะได้ กลิ่นหอมๆ ที่นำมาประกอบอาหารและขนมได้ อร่อย
    ปัจจุบันในประเทศเขตร้อนอื่นๆ เช่น อินโดนีเซีย ศรีลังกา ฯลฯ ก็เริ่มมีการปลูกวานิลลากันมากขึ้น รวมไปถึงประเทศไทย ด้วย



     

    ผลไม้รวม


    รสผลไม้รวมที่แสนอร่อย

    ถามตัวเองดูสิค่ะว่าคุณชอบแบบไหน...........!